วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

10 อันดับกีต้าร์ที่แพงที่สุดในโลก O_o !!

อันดับที่ 10 Fender Jag-Stang (Kurt Cobain)




ราคา $ 190,000 (7,600,000 Baht) Fender Jag-Stang ในปี 1993 เป็นส่วนผสมของรุ่น Jaguar และรุ่น Mustang และเป็นตัวที่เขาใช้เล่นในช่วงต้นปี 1994 ... ต่อมาเขายกกีตาร์ตัวนี้ให้ Michael Stipe แห่งวง " REM " และ Michael ยังใช้ใน Music Video ของวง ในเพลง " What's the Frequency Kenneth "


อันดับที่ 9 Homemade Red Special (Brian May)




ราคา $ 500,000 (20,000,000 Baht) Brian May ออกแบบและผลิตกีตาร์ Red Special ของเขา ตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น และมันก็เป็นกีตาร์ตัวหลักของเขาแต่นั้นมา May และพ่อของเขา เริ่มทำกีตาร์ตัวนี้ในปี 1962 และมันก็เสร็จสมบูรณ์ในเวลาสองปีต่อมา... " ตอนกีตาร์เสร็จสมบูรณ์ ผมอายุ 17 ปี ผมอยากได้กีตาร์ที่เสียงเพราะและซาวน์อุ่น แต่งานที่ออกมาภายนอกจะต้องดีด้วย... เราพยายามจะออกแบบกีตาร์ Solidbody ที่มีคุณสมบัติแบบ Hollowbody อยู่ด้วย โดยเฉพาะเสียง feedback ที่พอดี " Red Special เป็นสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ในแง่การสร้างสรรค์งานด้วยตัวเอง สปริงตรงคันโยก ก็เอามาจากขาตั้งมอร์เตอร์ไซค์... Body ไม้โอ๊ค ก็เอามาจากหิ้งเตาผิงอายุ 500 ปี... คอกีตาร์มีขนาดใหญ่ ทำให้เกิด warm sustain อันเป็นเอกลักษณ์ของ Special ระบบสวิตซ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง May ออกแบบให้กับตัวนี้ มี PickUp Single Coil ยี่ห้อ Burns สามตัว PickUp แต่ละตัวมีสวิตซ์ on/off ของตัวเอง และสวิตซ์ เพิ่ม-ลด ระดับ ทำให้สร้างโทรเสียงได้มากมายหลายแบบ... " จะด้วยพรใดในสากลโลกก็ตาม " May กล่าวถึงกีตาร์ของเขา... " มันจะต้องอยู่ยั่งยืน พอๆกับชีวิตผมนี่แหล่ะ


อันดับที่ 8 Number One Strat (Stevie Ray Vaughan)




ราคา $ 600,000 (24,000,000 Baht) ชื่อ Number One เป็นตัวที่บ่งบอกถึงตัว Stevie มากที่สุด " Number One " Stratocaster ของ Stevie Ray Vaughan เป็นกีตาร์ที่ประกอบจาก Vintage Strats มากกว่าหนึ่งตัว ส่วนประกอบหลักของกีตาร์ตัวนี้ คือ body สี sunburst ปี '63 และ คอปี '63 เช่นกัน แต่คนละตัว และ Stevie ได้ติด bridge แบบกีตาร์คนถนัดซ้าย เพื่อให้คันโยก ได้อารมณ์แบบ Hendrix ในวันที่ 9 กรกฎาคม 1990 ก่อนโศกนาฏกรรมการเสียชีวิตของ Vaughan เพียงหนึ่งสับดาห์ คอกีตาร์ Strat ตัวนี้ก็พัง ด้วยอุบัติเหตุบนเวที จากนั้นมันก็ถูกเอากลับมาต่อกันเหมือนเดิม และในสภาพที่ฟื้นคืนชีพใหม่ของกีตาร์ตัวนี้ ก็มีชีวิตยืนยาว... กว่าชายที่ทำให้มันเป็น " Number One "


อันดับที่ 7 Frankenstein Original Homemade (Edward Van Halen)




ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht) กีตาร์ตัวนี้สร้างสรรค์ riff ต่างๆมากมาย เจ้าของผู้โด่งดังใช้เงินแลกมาเพียง 130 เหรียญ เท่านั้น ! Edward Van Halen ซื้อ body ไม้ Ash และคอ ไม้ Maple เอามาจาก Lina Ellsworth ผู้ผลิตและเป็นเจ้าของ Seattle's Boogie Bodies ในปี 1975 " มันเป็นตัวที่สอง " Van Halen นั่งรำลึกอดีต "ผมให้ตังค์คนขายไป 50 เหรียญ สำหรับ body ส่วน คอ ก็ได้มาในราคา 80 เหรียญ ผมก็เอาสองชิ้นนี้แหล่ะ มาประกอบกัน ! " ตอนที่ Van Halen ได้ body มาใหม่ๆ มันเป็นช่องใส่ PickUp Single Coil 3 ตัว Van Halen ก็ได้ทำการเจาะช่อง เพื่อจะใส่ humbucker ที่ด้านใกล้ bridge ซึ่งเขาได้ใส่ P.A.F. ที่เอามาจาก ES-335 ปี 1961 ส่วน PickUp ด้านคอกีตาร์ ก็แยกระบบออกไปอย่างสิ้นเชิง กีตาร์ตัวนี้ เป็นตัวหลักของ Van Halen ในช่วงอัลบัมแรกๆ และการทัวร์ต่างๆ ในช่วงระหว่างการทัวร์ครั้งที่ 2 ของวง Van Halen เปลี่ยน Tremolo ไปเป็น Floyd Rose ที่เป็น prototype ในตอนนั้น บางครั้งที่ Eddie มันส์บนเวทีมากไปหน่อย จนทำให้คอ Ellsworth ชำรุดเสียหาย ซึ่งเขาก็ซ่อมโดยเอา " อะไรก็ได้ ที่ใช้ได้ " มาใส่แทน ภาพปุ่ม tone ที่เห็นนี้ เป็นของดั้งเดิม เพราะปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปแล้ว..


อันดับที่ 6 Blackie (Eric Clapton)



ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht) และFender Stratocaster ที่เขาซื้อมาในปี 1970 เป็นตัวเก่งที่เขาใช้เล่นในช่วง 1974 - 1985 และเป็นตัวที่ใช้อัดเสียง เพลงอมตะCocain และ Wonderful Tonight ปัจจุบันเจ้าของคือ Guitar Center ที่ประมูลมาได้ และนำเงินที่ได้จากการประมูล ไปใช้ในการกุศล

อันดับที่ 5 Strat #001 (David Gilmour)


ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht) Fender Stratocaster เป็นตัวที่ Stamp #001 แต่ไม่ใช่ตัวแรกจริงๆของ Fender รุ่นนี้ แต่คงเป็นเหตุผลพิเศษบางอย่าง ที่พิมพ์เลขนี้ กีตาร์ตัวนี้ เป็นของ David Gilmour มือกีตาร์ Pink Floyd มาโดยตลอด... ไม่นานมานี้ เขาได้เอากีตาร์ตัวนี้ขึ้นเล่นที่ง่าน Fender Strat Pack Anniversary 2004



อันดับที่ 4 ES-1275 Doubleneck (Jimmy Page)



ราคา $ 1,500,000 (60,000,000 Baht) Gibson ES-1275 สีแดงเชอร์รี่ตัวนี้ ยังคงถูกใช้โดยผู้สร้างชื่อให้ตัวมัน คือ Jimmy Page มาถึงทุกวันนี้ " ผมได้กีตาร์ doubleneck นี้มา หลังจากบันทึกเพลง "Stairway to Heaven" " Page กล่าว... " เป็นเพราะผมต้องการกีตาร์ที่ต่างกัน ในการแสดงสด " ความดังฉุดไม่อยู่ของเพลง "Stairway to Heaven" บันทึกเสียงโดย Page ด้วย Fender Telecaster ในช่วง Solo และ Fender Electric XII ในช่วง section 12 สาย ... ซึ่งทำให้การแสดงสดบนเวทีมีความพิเศษขึ้น เมื่อมาดูรายละเอียดของ ES-1275 ซึ่งเป็น doubleneck version ของรุ่น SG อันโด่งดังของ Gibson ซึ่ง Page ได้เป็นคนสั่งทำโดยตรงจากโรงงานของ Gibson ในช่วงปี 1971-1972 รุ่นนี้อยู่ในแค็ตตาล็อก Gibson ธรรมดาๆ จากปี 1962-1966 แต่ก็ไม่เป็นเรื่องยากนัก ที่ Page ได้ทำการสั่งแบบพิเศษ แฟนพันธุ์แท้ของ Page อาจสังเกตุเห็น doubleneck นี้ในภาพคอนเสิร์ตของ Led Zeppelin " The Song Remains the Same "


อันดับที่ 3 Les Paul 1958 (Jimmy Page)




ราคา $ 1,900,000 (76,000,000 Baht)Gibson Les Paul ปี 1958 เป็นตัวที่ใช้อัด Riff กีตาร์ยอดฮิตระดับโลก อย่างเพลง Rock&Roll, Black Dog และเป็นตัวที่ใช้เล่นคอนเสิร์ตบ่อยมากๆในช่วงยุค '70


อันดับที่ 2 Hofner Bass (Paul McCartney)



ราคา $ 3,500,000 (140,000,000 Baht) Bass ตัวประวัติศาสตร์ของโลกดนตรี เป็นเบสมือซ้าย ของ Hofner ทรง Violin เป็นตัวที่ใช้ทั้งอัดเสียง และ เล่นอยู่บ่อยมาก กับวง The Beatles มาตลอด จะเห็นปรากฏอยู่ในภาพการแสดงในยุคนั้น และ ภาพนิ่งต่างๆมากมายกับเบสตัวนี้

อันดับที่ 1 Woodstock 1968 Strat (Jimi Hendrix)


ราคา $ 5,500,000 (200,000,000 Baht) เป็นกีตาร์ตัว ประวัติศาสตร์ ในวงการ Rock History และเป็นสัญลักษณ์ในยุคของเขาเลย เป็นกีตาร์ตัวที่แพงที่สุดในโลก เท่าที่เคยมีมา ถูกขายครั้งแรก ในปี 1990 ราคา $ 320,760.- ต่อมา... ในปี 1993 ราคา & 1,132,500.- และในปัจจุบัน เป็นของอภิมหาเศรษฐี จาก Microsoft - Paul Allen

2 ความคิดเห็น: